ไม่พบทุกข์ ไม่เห็นธรรม แล้วจะรอให้พบทุกข์ไปทำไม เร่งหาธรรม มาดับก่อนพบทุกข์

ผู้ติดตาม

เรื่อง การบริหารกาย การบริหารจิตของข้าพเจ้า

:: ภาคกฏแห่งกรรม :: เรื่อง การบริหารกาย การบริหารจิตของข้าพเจ้า
โดย กนก สุรคุปต์

ข้าพเจ้าได้รับคำ ขอร้องจากพันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน นายกกิตติมศักดิ์ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เล่าเรื่อง การบริหารกาย และการบริหารจิตของข้าพเจ้าในชีวิตประจำวัน



ปัจจุบันข้าพเจ้า มีอายุ ๗๕ ปี ข้าพเจ้าไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) อดีตพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์

ข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมครั้งละ ๑ เดือน ถือศีล ๘ ด้วย เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ไปปฏิบัติที่วัดปริณายก ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีราชมหามุนีได้กรุณาไปสอบอารมณ์ให้ทุกวัน ข้าพเจ้าเกิดสภาวะมาก ปวดแสบปวดร้อนไม่สามารถจะเดินจงกรมได้ พยายามอดทน ทรมานมาก ภาวนาว่า ปวดหนอ แสบหนอ จนในที่สุดโรคริดสีดวงทวารหายไปเรียบร้อยจนถึงปัจจุบันนี้ (ข้าพเจ้าได้พยายามรักษาตัวก่อนหน้านั้นกับแพทย์แผนปัจจุบันผู้มีชื่อเสียง ถีง ๒ คน หายไปแล้วก็กลับเป็นอีก) ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น คนส่วนใหญ่ขาดความพากเพียรอดทน พอมีเวทนาเจ็บปวดก็เลิกเสีย จึงเปรียบเสมือนเราเลี้ยงโรคนั้นไว้ ถ้าตั้งใจอดทนจริง ๆ โรคต่าง ๆ จะหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่ข้าพเจ้าประสบมาแล้ว ทั้งโรคริดสีดวงทวาร และหอบหืด ปัจจุบันนี้ไม่เป็นอีกเลย


หลังจากข้าพเจ้า ได้รับผลการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ข้าพเจ้าได้เปิดบ้านของข้าพเจ้าเป็นสถานที่สอนวิปัสสนากรรมฐาน โดยอาราธนาท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เป็นพระอาจารย์สอนเป็นเวลา ๒๒ ปี ปลังจากท่านมรณภาพแล้ว ข้าพเจ้ายังคงเปิดสอน ได้อาราธนาพระมหาบุญชิต ญาณสํวโร คณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ สอนแทนทุกเดือน ๆ ละ ๑ ครั้ง จนถึงปัจจุบัน

ข้าพเจ้าชอบที่จะ ทำบุญอยู่เสมอ มีญาติมิตรสหายร่วมบริจาคทำบุญกับข้าพเจ้าเป็นจำนวนมาก เช่น การทำบุญอุปถัมภ์ค่าภัตตาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ แก่วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ กรุงเทพฯ วัดบุญศรีมุนีกรณ์ ถนนรามอินทรา วัดพุทธประทีป ประเทศอังกฤษ วัดไทยกรุงวอชิงตัน ดีซี (อุปถัมภ์ทำบุญรายเดือน ๆ ละ ๑๕๐ - ๕๐๐ บาท) การสร้างสาธารณประโยชน์ เช่น ห้องน้ำ ห้องสุขา การปล่อยโคกระบือ และปลาประจำปี ฯลฯ


หลังจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธร รมธีราชมหามุนี มรณภาพแล้ว ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑ - ๗ ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อหาสาระของหนังสือจูงใจให้คนสนใจปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เกิดความเกรงกลัวบาป ได้อ่านตัวอย่างจริงของผู้ที่ปฏิบัติธรรม แก้ปัญหาชีวิต แก้กรรมได้ด้วยความเมตตาชี้แนะของหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล ฯลฯ

ข้าพเจ้าเริ่ม ซื้อหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ จากยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ แจกลูกหลาน แจกญาติมิตร มีความปีติยินดี เมื่อเห็นเขาเกิดความศรัทธาท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล พากันไปปฏิบัติธรรม ไปวัดอัมพวัน พากันร่วมทำบุญบำรุงวัดอัมพวัน เป็นรายเดือนเดือนละ ๑๕๐-๕๐๐ บาท ข้าพเจ้ารู้สึกสบายใจที่มีโอกาสนำลูกหลาน ญาติมิตร มาถวายปัจจัยบำรุงวัดอัมพวันทุกเดือน ได้สัมผัสความเมตตาของหลวงพ่อและประทับใจความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัดอัมพวัน นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

กิจวัตร ประจำวัน

ข้าพเจ้าตื่นนอน เวลา ๔.๐๐ น. แล้วนั่งสมาธิ ๓๐ นาที แผ่เมตตา แล้วเขียนจดหมาย เขียนใบอนุโมทนาบัตร ตอบผู้ที่ส่งเงินอุปถัมภ์ทำบุญรายเดือนให้แก่วัดต่าง ๆ เวลา ๕.๓๐ น. ข้าพเจ้าขับรถออกไปว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับ ใช้เวลาว่ายน้ำ ๔๐ นาที ๒๐ เที่ยว = ๑,๐๐๐ เมตร ขณะที่ว่ายน้ำ ข้าพเจ้ากำหนด ๑ ซ้าย ๑ ขวา ๆ หายใจหนอ ไปตลอด ทำให้ไม่เหนื่อยเลย ข้าพเจ้าว่ายน้ำมาประมาณ ๑๓ ปี สถิติการว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับจนถึงปัจจุบัน ๓,๒๖๑,๔๐๐ เมตร เมื่อสถิติการว่ายน้ำครบ ๓ ล้าน ได้โล่สวยงามมาก เคยได้รับเหรียญรางวัล ๕ เหรียญและเสื้อหลายตัว มีการแข่งขันว่ายน้ำ แต่ข้าพเจ้าไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากสตรีสูงอายุไม่นิยมว่ายน้ำเช่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าว่ายน้ำทุกวันตลอดปี ยกเว้นระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ หรือป่วย (ปกติไม่เจ็บป่วย) ข้าพเจ้ารู้สึกคล่องแคล่ว กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็สวดพระพุทธคุณ อิติปิโส ภควา เท่าอายุ ๗๕ และเพิ่มอีก ๑ จบ แล้วต่อด้วยสวดพาหุงมหากา (รุณิโก) ตามแนวทางคำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ตอนเย็น ๑๘.๐๐ น. ข้าพเจ้าเดินจงกรม ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาที แล้วแผ่เมตตา เวลานอนก็ภาวนาพองหนอ ยุบหนอไปจนหลับ ข้าพเจ้ามีความสุขสบายดีมาก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น