ป้ายกำกับ
- กฏแห่งกรรม (140)
- ชาดก (162)
- พทุธประวัติ (20)
- พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (145)
- พระอริยสงฆ์ (4)
- ร่มไทร (11)
- วันสำคัญทางศาสนา (8)
- อานิสงส์ผลบุญ (40)
ผู้ติดตาม
เรื่อง การบริหารกาย การบริหารจิตของข้าพเจ้า
:: ภาคกฏแห่งกรรม :: เรื่อง การบริหารกาย การบริหารจิตของข้าพเจ้า
โดย กนก สุรคุปต์
ข้าพเจ้าได้รับคำ ขอร้องจากพันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน นายกกิตติมศักดิ์ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เล่าเรื่อง การบริหารกาย และการบริหารจิตของข้าพเจ้าในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบันข้าพเจ้า มีอายุ ๗๕ ปี ข้าพเจ้าไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) อดีตพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
ข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมครั้งละ ๑ เดือน ถือศีล ๘ ด้วย เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ไปปฏิบัติที่วัดปริณายก ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีราชมหามุนีได้กรุณาไปสอบอารมณ์ให้ทุกวัน ข้าพเจ้าเกิดสภาวะมาก ปวดแสบปวดร้อนไม่สามารถจะเดินจงกรมได้ พยายามอดทน ทรมานมาก ภาวนาว่า ปวดหนอ แสบหนอ จนในที่สุดโรคริดสีดวงทวารหายไปเรียบร้อยจนถึงปัจจุบันนี้ (ข้าพเจ้าได้พยายามรักษาตัวก่อนหน้านั้นกับแพทย์แผนปัจจุบันผู้มีชื่อเสียง ถีง ๒ คน หายไปแล้วก็กลับเป็นอีก) ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น คนส่วนใหญ่ขาดความพากเพียรอดทน พอมีเวทนาเจ็บปวดก็เลิกเสีย จึงเปรียบเสมือนเราเลี้ยงโรคนั้นไว้ ถ้าตั้งใจอดทนจริง ๆ โรคต่าง ๆ จะหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่ข้าพเจ้าประสบมาแล้ว ทั้งโรคริดสีดวงทวาร และหอบหืด ปัจจุบันนี้ไม่เป็นอีกเลย
หลังจากข้าพเจ้า ได้รับผลการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ข้าพเจ้าได้เปิดบ้านของข้าพเจ้าเป็นสถานที่สอนวิปัสสนากรรมฐาน โดยอาราธนาท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เป็นพระอาจารย์สอนเป็นเวลา ๒๒ ปี ปลังจากท่านมรณภาพแล้ว ข้าพเจ้ายังคงเปิดสอน ได้อาราธนาพระมหาบุญชิต ญาณสํวโร คณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ สอนแทนทุกเดือน ๆ ละ ๑ ครั้ง จนถึงปัจจุบัน
ข้าพเจ้าชอบที่จะ ทำบุญอยู่เสมอ มีญาติมิตรสหายร่วมบริจาคทำบุญกับข้าพเจ้าเป็นจำนวนมาก เช่น การทำบุญอุปถัมภ์ค่าภัตตาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ แก่วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ กรุงเทพฯ วัดบุญศรีมุนีกรณ์ ถนนรามอินทรา วัดพุทธประทีป ประเทศอังกฤษ วัดไทยกรุงวอชิงตัน ดีซี (อุปถัมภ์ทำบุญรายเดือน ๆ ละ ๑๕๐ - ๕๐๐ บาท) การสร้างสาธารณประโยชน์ เช่น ห้องน้ำ ห้องสุขา การปล่อยโคกระบือ และปลาประจำปี ฯลฯ
หลังจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธร รมธีราชมหามุนี มรณภาพแล้ว ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑ - ๗ ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อหาสาระของหนังสือจูงใจให้คนสนใจปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เกิดความเกรงกลัวบาป ได้อ่านตัวอย่างจริงของผู้ที่ปฏิบัติธรรม แก้ปัญหาชีวิต แก้กรรมได้ด้วยความเมตตาชี้แนะของหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล ฯลฯ
ข้าพเจ้าเริ่ม ซื้อหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ จากยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ แจกลูกหลาน แจกญาติมิตร มีความปีติยินดี เมื่อเห็นเขาเกิดความศรัทธาท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล พากันไปปฏิบัติธรรม ไปวัดอัมพวัน พากันร่วมทำบุญบำรุงวัดอัมพวัน เป็นรายเดือนเดือนละ ๑๕๐-๕๐๐ บาท ข้าพเจ้ารู้สึกสบายใจที่มีโอกาสนำลูกหลาน ญาติมิตร มาถวายปัจจัยบำรุงวัดอัมพวันทุกเดือน ได้สัมผัสความเมตตาของหลวงพ่อและประทับใจความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัดอัมพวัน นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
กิจวัตร ประจำวัน
ข้าพเจ้าตื่นนอน เวลา ๔.๐๐ น. แล้วนั่งสมาธิ ๓๐ นาที แผ่เมตตา แล้วเขียนจดหมาย เขียนใบอนุโมทนาบัตร ตอบผู้ที่ส่งเงินอุปถัมภ์ทำบุญรายเดือนให้แก่วัดต่าง ๆ เวลา ๕.๓๐ น. ข้าพเจ้าขับรถออกไปว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับ ใช้เวลาว่ายน้ำ ๔๐ นาที ๒๐ เที่ยว = ๑,๐๐๐ เมตร ขณะที่ว่ายน้ำ ข้าพเจ้ากำหนด ๑ ซ้าย ๑ ขวา ๆ หายใจหนอ ไปตลอด ทำให้ไม่เหนื่อยเลย ข้าพเจ้าว่ายน้ำมาประมาณ ๑๓ ปี สถิติการว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับจนถึงปัจจุบัน ๓,๒๖๑,๔๐๐ เมตร เมื่อสถิติการว่ายน้ำครบ ๓ ล้าน ได้โล่สวยงามมาก เคยได้รับเหรียญรางวัล ๕ เหรียญและเสื้อหลายตัว มีการแข่งขันว่ายน้ำ แต่ข้าพเจ้าไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากสตรีสูงอายุไม่นิยมว่ายน้ำเช่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าว่ายน้ำทุกวันตลอดปี ยกเว้นระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ หรือป่วย (ปกติไม่เจ็บป่วย) ข้าพเจ้ารู้สึกคล่องแคล่ว กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็สวดพระพุทธคุณ อิติปิโส ภควา เท่าอายุ ๗๕ และเพิ่มอีก ๑ จบ แล้วต่อด้วยสวดพาหุงมหากา (รุณิโก) ตามแนวทางคำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ตอนเย็น ๑๘.๐๐ น. ข้าพเจ้าเดินจงกรม ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาที แล้วแผ่เมตตา เวลานอนก็ภาวนาพองหนอ ยุบหนอไปจนหลับ ข้าพเจ้ามีความสุขสบายดีมาก
โดย กนก สุรคุปต์
ข้าพเจ้าได้รับคำ ขอร้องจากพันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน นายกกิตติมศักดิ์ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เล่าเรื่อง การบริหารกาย และการบริหารจิตของข้าพเจ้าในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบันข้าพเจ้า มีอายุ ๗๕ ปี ข้าพเจ้าไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) อดีตพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
ข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมครั้งละ ๑ เดือน ถือศีล ๘ ด้วย เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ไปปฏิบัติที่วัดปริณายก ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีราชมหามุนีได้กรุณาไปสอบอารมณ์ให้ทุกวัน ข้าพเจ้าเกิดสภาวะมาก ปวดแสบปวดร้อนไม่สามารถจะเดินจงกรมได้ พยายามอดทน ทรมานมาก ภาวนาว่า ปวดหนอ แสบหนอ จนในที่สุดโรคริดสีดวงทวารหายไปเรียบร้อยจนถึงปัจจุบันนี้ (ข้าพเจ้าได้พยายามรักษาตัวก่อนหน้านั้นกับแพทย์แผนปัจจุบันผู้มีชื่อเสียง ถีง ๒ คน หายไปแล้วก็กลับเป็นอีก) ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น คนส่วนใหญ่ขาดความพากเพียรอดทน พอมีเวทนาเจ็บปวดก็เลิกเสีย จึงเปรียบเสมือนเราเลี้ยงโรคนั้นไว้ ถ้าตั้งใจอดทนจริง ๆ โรคต่าง ๆ จะหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่ข้าพเจ้าประสบมาแล้ว ทั้งโรคริดสีดวงทวาร และหอบหืด ปัจจุบันนี้ไม่เป็นอีกเลย
หลังจากข้าพเจ้า ได้รับผลการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ข้าพเจ้าได้เปิดบ้านของข้าพเจ้าเป็นสถานที่สอนวิปัสสนากรรมฐาน โดยอาราธนาท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เป็นพระอาจารย์สอนเป็นเวลา ๒๒ ปี ปลังจากท่านมรณภาพแล้ว ข้าพเจ้ายังคงเปิดสอน ได้อาราธนาพระมหาบุญชิต ญาณสํวโร คณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ สอนแทนทุกเดือน ๆ ละ ๑ ครั้ง จนถึงปัจจุบัน
ข้าพเจ้าชอบที่จะ ทำบุญอยู่เสมอ มีญาติมิตรสหายร่วมบริจาคทำบุญกับข้าพเจ้าเป็นจำนวนมาก เช่น การทำบุญอุปถัมภ์ค่าภัตตาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ แก่วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ กรุงเทพฯ วัดบุญศรีมุนีกรณ์ ถนนรามอินทรา วัดพุทธประทีป ประเทศอังกฤษ วัดไทยกรุงวอชิงตัน ดีซี (อุปถัมภ์ทำบุญรายเดือน ๆ ละ ๑๕๐ - ๕๐๐ บาท) การสร้างสาธารณประโยชน์ เช่น ห้องน้ำ ห้องสุขา การปล่อยโคกระบือ และปลาประจำปี ฯลฯ
หลังจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธร รมธีราชมหามุนี มรณภาพแล้ว ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑ - ๗ ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อหาสาระของหนังสือจูงใจให้คนสนใจปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เกิดความเกรงกลัวบาป ได้อ่านตัวอย่างจริงของผู้ที่ปฏิบัติธรรม แก้ปัญหาชีวิต แก้กรรมได้ด้วยความเมตตาชี้แนะของหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล ฯลฯ
ข้าพเจ้าเริ่ม ซื้อหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ จากยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ แจกลูกหลาน แจกญาติมิตร มีความปีติยินดี เมื่อเห็นเขาเกิดความศรัทธาท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล พากันไปปฏิบัติธรรม ไปวัดอัมพวัน พากันร่วมทำบุญบำรุงวัดอัมพวัน เป็นรายเดือนเดือนละ ๑๕๐-๕๐๐ บาท ข้าพเจ้ารู้สึกสบายใจที่มีโอกาสนำลูกหลาน ญาติมิตร มาถวายปัจจัยบำรุงวัดอัมพวันทุกเดือน ได้สัมผัสความเมตตาของหลวงพ่อและประทับใจความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัดอัมพวัน นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
กิจวัตร ประจำวัน
ข้าพเจ้าตื่นนอน เวลา ๔.๐๐ น. แล้วนั่งสมาธิ ๓๐ นาที แผ่เมตตา แล้วเขียนจดหมาย เขียนใบอนุโมทนาบัตร ตอบผู้ที่ส่งเงินอุปถัมภ์ทำบุญรายเดือนให้แก่วัดต่าง ๆ เวลา ๕.๓๐ น. ข้าพเจ้าขับรถออกไปว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับ ใช้เวลาว่ายน้ำ ๔๐ นาที ๒๐ เที่ยว = ๑,๐๐๐ เมตร ขณะที่ว่ายน้ำ ข้าพเจ้ากำหนด ๑ ซ้าย ๑ ขวา ๆ หายใจหนอ ไปตลอด ทำให้ไม่เหนื่อยเลย ข้าพเจ้าว่ายน้ำมาประมาณ ๑๓ ปี สถิติการว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับจนถึงปัจจุบัน ๓,๒๖๑,๔๐๐ เมตร เมื่อสถิติการว่ายน้ำครบ ๓ ล้าน ได้โล่สวยงามมาก เคยได้รับเหรียญรางวัล ๕ เหรียญและเสื้อหลายตัว มีการแข่งขันว่ายน้ำ แต่ข้าพเจ้าไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากสตรีสูงอายุไม่นิยมว่ายน้ำเช่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าว่ายน้ำทุกวันตลอดปี ยกเว้นระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ หรือป่วย (ปกติไม่เจ็บป่วย) ข้าพเจ้ารู้สึกคล่องแคล่ว กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็สวดพระพุทธคุณ อิติปิโส ภควา เท่าอายุ ๗๕ และเพิ่มอีก ๑ จบ แล้วต่อด้วยสวดพาหุงมหากา (รุณิโก) ตามแนวทางคำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ตอนเย็น ๑๘.๐๐ น. ข้าพเจ้าเดินจงกรม ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาที แล้วแผ่เมตตา เวลานอนก็ภาวนาพองหนอ ยุบหนอไปจนหลับ ข้าพเจ้ามีความสุขสบายดีมาก

สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น