ป้ายกำกับ
- กฏแห่งกรรม (140)
- ชาดก (162)
- พทุธประวัติ (20)
- พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (145)
- พระอริยสงฆ์ (4)
- ร่มไทร (11)
- วันสำคัญทางศาสนา (8)
- อานิสงส์ผลบุญ (40)
ผู้ติดตาม
เรื่อง ชีวิตคือการเดินทาง
:: ภาคกฏแห่งกรรม :: เรื่อง ชีวิตคือการเดินทาง
โดย ปรุง พวงนัดดา
ถ้าหากจะพูดว่า ชีวิตคือการเดินทาง ก็คงจะไม่ผิด เพราะทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องเดินทางกันทั้งนั้น การเดินหรือการเดินทาง ในความหมายตรง ๆ ย่อมได้ระยะทาง เดินทางมาก็ได้ระยะทางมาก เดินทางน้อยก็ได้ระยะทางน้อย แต่การเดินทางของชีวิตหรือที่เรียกว่า ชีวิตคือการเดินทางนั้น อาจจะได้ระยะทางก็ได้ หรือไม่ได้ระยะทางก็ได้ แต่ที่ต้องได้แน่ ๆ คือ ได้อายุมากขึ้น
ถ้าเชื่อว่าชีวิต คือการเดินทาง ทุกคนย่อมต้องการการเดินทางที่ยาวนานที่สุด นั่นคือ ต้องกาให้ได้อายุมากที่สุด ต้องการให้อายุยืนยาวที่สุดทั้ง ๆ ที่การมีอายุ มีทั้งทุกข์ มีทั้งสุข มนุษย์ทุกคนต้องการความสุข ต้องการสิ่งดี ๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ไหนเลยในโลกนี้ที่ได้สมความปรารถนา ทุกคนพบความทุกข์ ได้สิ่งที่ไม่ดี มีสิ่งที่ไม่อยากได้ ด้วยกันทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง ต่าง ๆ กันไป ถ้าจะเปรียบกับการเดินทาง ก็ไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในความยากลำบาก เสี่ยงอันตราย และแม้กระทั่งการต้องเดินทางไปในความมืดมิด
ใครจะมีความเห็นอย่างไรคงไม่ว่ากัน แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนที่นับถือพุทธศาสนาถือว่าเป็นคนโชคดี เพราะนอกจากจะมีพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักสำคัญ ในการดำรงชีวิตแล้ว ยังมีพระสงฆ์คอยให้แสงสว่างในยามที่ชีวิตกำลังเดินทางอยู่ในความมืด และให้กำลังใจในยามชีวิตกำลังอ่อนแรง ท้อแท้ ต่อการเดินทาง ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนมีความทุกข์อันเนื่องมาจากการทำงาน เพราะต้องผจญกับคนที่เหมือนกับมาร ได้สู้อุตส่าห์ตั้งสติ พลิกตำราที่ศึกษาเล่าเรียนมา แล้วนำวิทยายุทธที่ปรมาจารย์ว่าเยี่ยม ๆ ออกมาใช้ แต่จะใช้ยังไง ๆ ก็ปราบไม่ได้สักที จนเกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว ถ้าเปรียบกับการเดินทางก็คงไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในถ้ำมืดที่เต็มไปด้วย หินโสโครก และสัตว์ร้ายนานาพันธุ์นั่นเทียว แต่ชะรอยบุญเก่าคงยังพอมีอยู่บ้าง จึงทำให้นึกถึงหลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพ และเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน จึงเดินทางมากราบนมัสการเล่าเหตุการณ์ให้หลวงพ่อฟัง และขอให้ช่วย
แสงสว่างที่หลวง พ่อให้ในครั้งนั้น คือ ให้แผ่เมตตาต่อพญามารทั้งหลาย ตั้งความปรารถนาให้เขามีความสุขความเจริญ อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปเถิด
พอได้แสงสว่าง เช่นนั้น ก็ทำให้คนเดินทางที่กำลังสิ้นหวัง กลับเพียบพร้อมด้วยพละกำลังอีกครั้งหนึ่ง และสามารถเดินทางต่อไปได้อย่างดี
หลวงพ่อของผู้ เขียน คือ พระราชสุทธิญาณมงคล และขอยืนยันว่า ไม่เฉพาะแต่ผู้เขียนเท่านั้น ที่เวลามีปัญหาหรือมีความทุกข์แล้วไปหาหลวงพ่อ ใคร ๆ ก็ไปหาหลวงพ่อเพื่อให้ท่านชี้ทางสว่างให้
หลวงพ่อไม่เคย รังเกียจ ไม่เคยแสดงความเหน็ดเหนื่อย มีแต่ความเมตตากรุณาให้ทุกคนตลอดเวลา แสงสว่างที่หลวงพ่อให้ เป็นแสงสว่างที่มาจากธรรมะของพระพุทธศาสนา หลวงพ่อปรุงปรับแสงนั้นให้สว่างพอเหมาะกับคนแต่ละคน ทุก คนจึงได้ประโยชน์จากแสงสว่างที่ให้อย่างเต็มที่
และไม่เพียงแต่เท่านั้น ความจริงที่อยู่เหนือความจริงก็ยังมีอยู่ โดยไม่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์กันแต่อย่างใด หลายคน หลายครั้ง มีความทุกข์ มีความในใจ ตั้งใจจะไปขอให้หลวงพ่อช่วย เพียงไปถึงหลวงพ่อ ยังไม่ทันได้เอ่ยถ้อยคำใดออกมา หลวงพ่อก็ให้สิ่งที่อยากได้นั้นแล้ว โดยออกมาเป็นคำสอน คำแนะนำ และกำลังใจ เหตุดังยกมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงส่วนน้อยนิดแห่งเมตตาบารมีของหลวงพ่อเท่านั้น ไม่มีใครสามารถพรรณนาเมตตาบารมีของท่านที่มีต่อคนทุกคนให้ครบถ้วนได้
ทุกชีวิตกำลัง เดินทาง ทุกชีวิตกำลังต้องการแสงสว่างเพื่อนำทาง และทุกชีวิตก็คงกำลังเสาะแสวงหาแสงสว่างกันอยู่ ส่วนใครจะพบไม่พบ ใครจะได้แสงสว่างมากแสงสว่างน้อย คงเป็นเรื่องเฉพาะตัว
สำหรับผู้เขียน หลวงพ่อได้เมตตาให้แสงสว่างมานานแล้ว ขณะนี้ก็ให้อยู่ และจะขอแสงสว่างจากหลวงพ่อนำทางชีวิตตลอดไป
โดย ปรุง พวงนัดดา
ถ้าหากจะพูดว่า ชีวิตคือการเดินทาง ก็คงจะไม่ผิด เพราะทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องเดินทางกันทั้งนั้น การเดินหรือการเดินทาง ในความหมายตรง ๆ ย่อมได้ระยะทาง เดินทางมาก็ได้ระยะทางมาก เดินทางน้อยก็ได้ระยะทางน้อย แต่การเดินทางของชีวิตหรือที่เรียกว่า ชีวิตคือการเดินทางนั้น อาจจะได้ระยะทางก็ได้ หรือไม่ได้ระยะทางก็ได้ แต่ที่ต้องได้แน่ ๆ คือ ได้อายุมากขึ้น
ถ้าเชื่อว่าชีวิต คือการเดินทาง ทุกคนย่อมต้องการการเดินทางที่ยาวนานที่สุด นั่นคือ ต้องกาให้ได้อายุมากที่สุด ต้องการให้อายุยืนยาวที่สุดทั้ง ๆ ที่การมีอายุ มีทั้งทุกข์ มีทั้งสุข มนุษย์ทุกคนต้องการความสุข ต้องการสิ่งดี ๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ไหนเลยในโลกนี้ที่ได้สมความปรารถนา ทุกคนพบความทุกข์ ได้สิ่งที่ไม่ดี มีสิ่งที่ไม่อยากได้ ด้วยกันทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง ต่าง ๆ กันไป ถ้าจะเปรียบกับการเดินทาง ก็ไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในความยากลำบาก เสี่ยงอันตราย และแม้กระทั่งการต้องเดินทางไปในความมืดมิด
ใครจะมีความเห็นอย่างไรคงไม่ว่ากัน แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนที่นับถือพุทธศาสนาถือว่าเป็นคนโชคดี เพราะนอกจากจะมีพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักสำคัญ ในการดำรงชีวิตแล้ว ยังมีพระสงฆ์คอยให้แสงสว่างในยามที่ชีวิตกำลังเดินทางอยู่ในความมืด และให้กำลังใจในยามชีวิตกำลังอ่อนแรง ท้อแท้ ต่อการเดินทาง ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนมีความทุกข์อันเนื่องมาจากการทำงาน เพราะต้องผจญกับคนที่เหมือนกับมาร ได้สู้อุตส่าห์ตั้งสติ พลิกตำราที่ศึกษาเล่าเรียนมา แล้วนำวิทยายุทธที่ปรมาจารย์ว่าเยี่ยม ๆ ออกมาใช้ แต่จะใช้ยังไง ๆ ก็ปราบไม่ได้สักที จนเกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว ถ้าเปรียบกับการเดินทางก็คงไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในถ้ำมืดที่เต็มไปด้วย หินโสโครก และสัตว์ร้ายนานาพันธุ์นั่นเทียว แต่ชะรอยบุญเก่าคงยังพอมีอยู่บ้าง จึงทำให้นึกถึงหลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพ และเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน จึงเดินทางมากราบนมัสการเล่าเหตุการณ์ให้หลวงพ่อฟัง และขอให้ช่วย
แสงสว่างที่หลวง พ่อให้ในครั้งนั้น คือ ให้แผ่เมตตาต่อพญามารทั้งหลาย ตั้งความปรารถนาให้เขามีความสุขความเจริญ อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปเถิด
พอได้แสงสว่าง เช่นนั้น ก็ทำให้คนเดินทางที่กำลังสิ้นหวัง กลับเพียบพร้อมด้วยพละกำลังอีกครั้งหนึ่ง และสามารถเดินทางต่อไปได้อย่างดี
หลวงพ่อของผู้ เขียน คือ พระราชสุทธิญาณมงคล และขอยืนยันว่า ไม่เฉพาะแต่ผู้เขียนเท่านั้น ที่เวลามีปัญหาหรือมีความทุกข์แล้วไปหาหลวงพ่อ ใคร ๆ ก็ไปหาหลวงพ่อเพื่อให้ท่านชี้ทางสว่างให้
หลวงพ่อไม่เคย รังเกียจ ไม่เคยแสดงความเหน็ดเหนื่อย มีแต่ความเมตตากรุณาให้ทุกคนตลอดเวลา แสงสว่างที่หลวงพ่อให้ เป็นแสงสว่างที่มาจากธรรมะของพระพุทธศาสนา หลวงพ่อปรุงปรับแสงนั้นให้สว่างพอเหมาะกับคนแต่ละคน ทุก คนจึงได้ประโยชน์จากแสงสว่างที่ให้อย่างเต็มที่
และไม่เพียงแต่เท่านั้น ความจริงที่อยู่เหนือความจริงก็ยังมีอยู่ โดยไม่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์กันแต่อย่างใด หลายคน หลายครั้ง มีความทุกข์ มีความในใจ ตั้งใจจะไปขอให้หลวงพ่อช่วย เพียงไปถึงหลวงพ่อ ยังไม่ทันได้เอ่ยถ้อยคำใดออกมา หลวงพ่อก็ให้สิ่งที่อยากได้นั้นแล้ว โดยออกมาเป็นคำสอน คำแนะนำ และกำลังใจ เหตุดังยกมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงส่วนน้อยนิดแห่งเมตตาบารมีของหลวงพ่อเท่านั้น ไม่มีใครสามารถพรรณนาเมตตาบารมีของท่านที่มีต่อคนทุกคนให้ครบถ้วนได้
ทุกชีวิตกำลัง เดินทาง ทุกชีวิตกำลังต้องการแสงสว่างเพื่อนำทาง และทุกชีวิตก็คงกำลังเสาะแสวงหาแสงสว่างกันอยู่ ส่วนใครจะพบไม่พบ ใครจะได้แสงสว่างมากแสงสว่างน้อย คงเป็นเรื่องเฉพาะตัว
สำหรับผู้เขียน หลวงพ่อได้เมตตาให้แสงสว่างมานานแล้ว ขณะนี้ก็ให้อยู่ และจะขอแสงสว่างจากหลวงพ่อนำทางชีวิตตลอดไป

สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น