ไม่พบทุกข์ ไม่เห็นธรรม แล้วจะรอให้พบทุกข์ไปทำไม เร่งหาธรรม มาดับก่อนพบทุกข์

ผู้ติดตาม

เรื่อง การได้พบพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล

:: ภาคกฏแห่งกรรม :: เรื่อง การได้พบพระเดชพระคุณ
หลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล
โดย บุญเติม อินทฤทธิ์


พระสมุห์ธีรชาติ ภทฺทโก เจ้าอาวาสวัดดงบ้านกร่าง หมูที่ ๗ ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้จัดงานทำบุญครบรอบ ๕๐ ปี กระผมและภรรยาได้เดินทางไปร่วมงานนี้กับท่านด้วยในงานนี้มีการสวดพระพุทธ มนต์ฉลอง ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ และมีธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ เรื่อง ทำดีไว้ให้ลูก ทำถูกไว้ให้หลาน โดยพระราชสุทธิญาณมงคล

เมื่อพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพลเสร็จ ญาติโยมรับประทานอาหารเสร็จ จึงเริ่มทำพิธีอาราธนาธรรม เพื่อแสดงพระธรรมเทศนา กระผมได้พิจารณาอิริยาบถของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ (ซึ่งตอนนั้นกระผมยังไม่รู้จักท่าน) ในขณะที่ท่านเดินขึ้นธรรมาสน์เพื่อแสดงธรรม ท่านเดินสง่าผ่าเผย สำรวมเงียบ ใบหน้าของหลวงพ่ออิ่มใส ผิดกว่าพระสงฆ์ทั่วไป เมื่อท่านเดินขึ้นไปนั่งบนธรรมาสน์เรียบร้อยแล้ว กระผมก็เข้าไปกราบท่านที่หน้าธรรมาสน์ ๓ ครั้ง กราบเรียนท่านว่า "หลวงพ่อครับ กระผมขออนุญาตถ่ายภาพหลวงพ่อไว้เป็นที่ระลึกในงานนี้ได้ไหมครับ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ถามกระผมว่า "โยมมาจากไหน" กระผมเรียนตอบท่านว่า "กระผมเดินทางมาจากอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีครับ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ตอบกระผมว่า "ถ้าอย่างนั้นก็เชิญ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ขยับกายเล็กน้อยแล้วสำรวมให้กระผมถ่ายภาพที่ได้แนบมานี้

กระผม ได้ยกมือไหว้ ๑ ครั้งก่อนถ่ายภาพ แล้วถ่ายภาพไปสองภาพ หลังจากถ่ายภาพแล้วกระผมกราบท่านอีก ๓ ครั้ง จากนั้นก็รับศีล ฟังธรรมจนกระทั่งจบกระผมและภรรยาต่างชำเลืองดูซึ่งกันและกัน เพื่อแสดงให้รู้ว่าเราทั้งสองจงตั้งใจฟังธรรมโดยเคารพอย่างสมบูรณ์ เพราะพระที่แสดงธรรมองค์นี้มิใช่พระสงฆ์ธรรมดาทั่วไปแน่นอน ซึ่งดูได้จากอิริยาบถของท่าน

การ แสดงธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในเรื่องทำดีไว้ให้ลูก ทำถูกไว้ให้หลาน ท่านได้ใช้ถ้อยคำ สำนวน ให้ฟังง่าย เข้าใจง่าย เพลิดเพลินในการฟัง และคิดตามไปอย่างมีเหตุผล เมื่อฟังพระธรรมเทศนาจบแล้ว สามารถถามตัวเองได้เลยว่า การกระทำของตนเองที่ผ่านมานั้นไดทำดีไว้ให้ลูก ทำถูกไว้ให้หลานหรือไม่ ในส่วนที่ทำดีทำถูกแล้วจะรู้สึกปลื้มใจ และดีใจในการกระทำของตนเอง แต่ในส่วนที่ยังไม่ถูกจะฟังคำสั่งสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อนำไปปรับปรุงตน เองให้ดีขึ้นต่อไป


หลังจากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้แสดงพระธรรมเทศนาจบ ให้พรจบ พระสมุห์ธีรชาติได้เข้าประเคนเครื่องบูชาพระธรรม พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้รับประเคนเครื่องบูชาธรรมทั้งหมด แล้วท่านได้เลือกเก็บไว้เฉพาะดอกไม้ ธูปเทียน ส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เป็นปัจจัย และบริขารต่าง ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มอบคืนให้แก่พระสมุห์ธีรชาติทั้งหมด

ส่วนพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ก็เช่นกัน ท่านได้รับไปเฉพาะ ดอกไม้ ธูปเทียน และผ้าไตร ส่วนปัจจัยท่านได้ถวายคือพระสมุห์ธีรชาติทั้งหมด กระผมและภรรยาเห็นภาพตอนนี้แล้ว เกิดอาการปลื้มปีติในพระสงฆ์ที่พบเห็นถึงกับน้ำตาไหล ซึ่งภาพเหตุการณ์อย่างนี้จะหาได้ไม่ง่ายนัก แม้แต่ขณะที่กระผมเขียนบันทึกมาถึงตอนนี้ ยังเกิดอาการปลื้มปีติมีน้ำตาไหลออกมาเหมือนเมื่อครั้งนั้นเช่นกัน

เมื่อกระผมกลับชะอำ ได้นำฟิล์มไปล้างอัดภาพภาพถ่ายในม้วนนี้ทั้งหมดได้ ๓๕ ภาพ มีภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญคมชัดที่สุด และมีสง่าราศี กระผมจึงนำภาพนี้ไปขยายขนาด ๑๔ นิ้วอีก ๑ ภาพ นำมาใส่กรอบติดไว้ที่ห้องพระที่บ้าน

ต่อ มาอีกประมาณ ๑ เดือนเศษ ภรรยาของพระผมได้มาบอกว่า มีหนังสือออกใหม่ได้นำรูปพระองค์ที่ไปถ่ายมาจากกวัดดงบ้านกร่างเป็นภาพปก หนังสือ กระผมจึงไปซื้อมา ๑ เล่ม อ่านกันทั้งครอบครัว จึงรู้ว่าพระสงฆ์ที่แสดงธรรมที่วัดดงบ้านกร่างนี้ไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดาทั่วไป อย่างที่คิดไว้ตั้งแต่ต้นจริง จึงเกิดศรัทธาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างแรงกล้า และได้อธิษฐานพร้อมกับภรรยาว่า หากเป็นบุญของข้าพเจ้าขอให้ได้พบกับหลวงพ่อโดยเร็วพลันเทอญฯ

หลังจากบุตรชายของกระผมได้เสียชีวิตไปหนึ่งคนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ กระผมและภรรยาเสียใจเป็นที่สุด ได้เร่งทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุตรทุกวันพระ ก็ไม่หายโศกเศร้า หายทุกข์ ได้ทอดผ้าป่า ๑ กอง ที่วัดดงบ้านกร่าง ก็ยังไม่หายทุกข์ใจ ร่วมทำบุญวางศิลาฤกษ์สร้างพระอุโบสถของวัดหลังเขา ก็ยังไม่สามารถคลายทุกข์ที่คิดถึงบุตรได้เลย กระผมและภรรยาจึงเดินทางกลับชะอำ ก่อนรถของกระผมจะออกจากวัด กระผมได้กล่าววาจาว่า กุศลวันนี้ขอให้ถึงบิดามารดา และผู้มีพระคุณทุกท่าน และขอให้ข้าพเจ้าพ้นทุกข์ หมดทุกข์ ด้วยเถิด ขอให้พบแสงสว่างแห่งชีวิตด้วยเถิด วันนั้นเป็นวันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ในขณะที่รถจะผ่านหน้าวัดอัมพวัน ภรรยาของกระผมได้พูดว่า "พี่ขับรถเข้าวัดก่อนเถอะ เผื่อว่าจะได้พบหลวงพ่อ"

โอกาสบัดนี้ อาตมาภาพจะแสดงพระธรรมเทศนา ในการบำเพ็ญกุศลทักษิณาทานอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) ท่านได้มรณภาพไปสู่สัมปรายภพ ปรารภ ๖ ปีในปีนี้แล้ว คณะญาติ ศิษยานุศิษย์มี ท่านอาจารย์มหาสุภาพ เขมรํสี พระมหาบุญชิต ญาณวีโร พร้อมทั้งคณะ อุบาสก อุบาสิกา ถือว่างานนี้เป็นงานอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณ ครูบาอาจารย์ที่เคารพสักการะอย่างสูง ในวันนี้ ท่านสาธุชนศิษยานุศิษย์ทั้งหลายโปรดสำนึกสมัญญาในการบูชาคุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ว่า

ขณะนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังสนทนากับผู้เข้าพบหลายท่าน กระผมและภรรยาจึงเข้าไปกราบท่าน พอกราบเสร็จ ท่านได้เมตตาถามว่า "มีธุระอะไรหรือ?" กระผมตอบว่า "กระผมไม่มีธุระอะไรมากหรอกครับ อยากจะกราบเรียนถามว่า ตั้งแต่บุตรชายของกระผมเสียชีวิตไปหนึ่งคน กระผมและภรรยาเสียใจเป็นที่สุด มีทุกข์ ตรอมใจเหลือเกิน ทำบุญมาแล้วพอสมควร เช่น ถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า ร่วมทอดผ้าพระกฐิน ก็ไม่หายทุกข์ จะทำอย่างไรจึงจะหมดทุกข์ได้ครับ" พอกระผมพูดจบน้ำตาก็หลั่งออกมาทั้งภรรยาของผมก็ร้องไห้เหมือนกัน

พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้นั่งสงบอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงพูดเรื่องกรรมและกฎแห่งกรรม เรื่องการสิ้นอายุขัย ท่านได้แนะนำว่า การจะให้หมดทุกข์ พ้นทุกข์ จะต้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ท่านถามกระผมว่าเคยปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาบ้างไหม กระผมตอบว่าไม่เคยครับ จะเรียนไหม กระผมตอบว่า เรียนครับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อนิ่งอยู่นิดหนึ่ง แล้วเรียกชายผู้หนึ่งให้ไปเชิญแม่ชีซูง้อมาพบ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สั่งแม่ชีซูง้อว่า "ช่วยสอนวิปัสสนากรรมฐานให้สองสามีภรรยาคู่นี้ในคืนนี้ด้วย" กระผมและภรรยาได้มาปฏิบัติกรรมฐานตามที่แม่ชีซูง้อสอน จนถึงเวลา ๐๖.๐๐ น. และได้ลากลับชะอำ ในเช้าวันนั้น


ตั้งแต่ นั้นมา กระผมและภรรยาได้มาปฏิบัติกรรมฐานที่วัดอัมพวันอีกหลายครั้ง และยังได้พาคุณแม่ น้องสาว บุตรชาย และหลาน อีกหลายคนได้มาเรียนวิปัสสนากรรมฐานจากวัดอัมพวัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่ ๑๕ สิงหาคม, ๑๔ ตุลาคม หรือวันหยุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กระผมและครอบครัวจะมากันทุกครั้งโดยเฉพาะบุตรชายของกระผม วัย ๒๐ ปี เขาพูดว่าเขาเคารพพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ครูทุกท่านที่สอน และแม่อุบาสิกาสุ่ม ที่ได้เมตตาสอนคาถาให้ท่องบ่น จนสามารถได้เล่าเรียนจบสำเร็จตามความประสงค์ได้เพราะบารมีคุ้มครองเป็นแน่ แท้ ส่วนกระผมและภรรยาตั้งแต่กลับมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นครั้งที่สองที่ วัดอัมพวัน ความทุกข์ทั้งหลายที่เคยมีอยู่หายไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นตามจริงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาแนะนำไว้ในตอนแรกทุกประการ จากบันทึกฉบับนี้ นอกจากจะบอกถึงที่มาของการที่ได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้ว ยังสามารถยืนยันได้ว่า กุศลอันใด ไม่ประเสริฐเท่าการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน การจะปลดเปลื้องทุกข์ได้ต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐาน

การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตา พร่ำสอนทุกท่านที่ เข้ามาในวัดอัมพวัน ก็เพื่อให้ทุกท่านได้พ้นจากทุกข์ มีสุข มีปัญญาช่วยตัวเองได้ โดยทั่วหน้ากัน


กระผมและครอบครัวระลึกถึงความมีเมตตาธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และครูอาจารย์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่บริการให้กับครอบครัวของกระผมให้ได้รับธรรมและแสงสว่างแห่งชีวิต ได้เจริญรุ่งเรืองสืบมาจนทุกวันนี้ ขออัญเชิญอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก และในวัดอัมพวัน จงอภิบาลพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล ให้มีพลานามัยสมบูรณ์ มีอายุยืนยาวนานสถิตสถาพร อยู่เป็นมิ่งขวัญของชาวประชาผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย ได้พึ่งเมตตาบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อสืบต่อไปชั่วกาลนาน

บุญเติม อินทฤทธิ์
๕๔ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โทร. ๔๗๑๗๘๑

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น